หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เพศกับวัฒนธรรมไทย

บทที่ 4 เพศกับวัฒนธรรมไทย

หน่วยการเรียนรู้ 4 เพศกับวัฒนธรรมไทย

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/

                                                            ค่านิยมในเรื่องเพศ

ค่านิยม หมายถึง  ความรู้สึกนึกคิด  การให้คุณค่าหรือเชื่อถือที่มีต่อสิ่งหนึ่งค่านิยมทางเพศจึงเป็นเรื่องของความรู้สึกการให้คุณค่า  ดังนั้น  วัยรุ่นจึงให้ความสนใจและทำความเข้าใจในเรื่องเพศและค่านิยมทางเพศ

1.เรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์

นักเรียนจะเห็นได้ว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคนตั้งแต่กำเนิด  ดังนั้นเรื่องเพศจึงไม่ใช่เรื่องนารังเกียจหรือเลวร้ายไม่สามารถนำมาสนทนาได้แต่เราควรกล่าวในทางสร้างสรรค์  หลีกเลี่ยงในการปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศหรือ  ในทางลามกอนาจาร

2.เพศชายและเพศหญิงและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันตามหลักสิทธิมนุษยชน

ในอดีตสงคมไทยให้ความสำคัญกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง  เพราะบทบาทในการประกอบสัมมาอาชีพเพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวนั้นส่วนใหญ่เป็นของฝ่ายชาย  ฝ่ายหญิงมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของบ้าน  จัดเตรียมอาหาร  ดูแลบุตร  แต่ในปัจจุบันเพศหญิงมีโอกาสในการได้รับการศึกษา  การประกอบอาชีพและสถานภาพทางสังคมเท่าเทียมกับเพศชาย  ดังนั้น  เราจึงควรเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีของตนเองเช่นเดียวกับการเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีของเพศตรงข้าม

 

 

3.ค่านิยมทางเพศอาจแตกต่างกันไปตามสภาพสังคม  ประเพณี  และ  วัฒนธรรม

นักเรียนจะเห็นได้ว่าในแต่ละสังคมจะมีขนบธรรมเนียม  ประเพณี  ความเชื่อ  วิถีการดำเนินชีวิตและองค์ประกอบอื่นๆ  ของสงคมที่แตกต่าง  เนื่องจาบุคคลในสังคมก็มีความแตกต่างกัน  รวมทั้งค่านิยมในเรื่องเพศค่านิยมบางอย่างอาจมีความเหมาะสมกับอีกสงคมหนึ่งอาจไม่เหมาะสมกับอีกสังคมหนึ่ง  ดังนั้นการจะรับค่านิยมทางสังคมและวัฒนธรรมอื่นมาใช้ต้องพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ  ว่าค่านิยมนั้นเหมาะสมและเป็นการยอมรับของสังคมไทยหรือไม่

4.ในสังคมเดียวกันอาจมีความเชื่อ  ค่านิยมทางเพศ  และการแสดงออกในเรื่องเพศที่แตกต่างกัน

การที่คนเรามีความแตกต่างระหว่างบุคคล  รวมทั้งมีการอบรมจากครอบครัว  มีสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ทางเพศที่ต่างกัน  ทำให้บุคคลมีการแสดงออกทางเพศที่ต่างกัน  ดังนั้นนักเรียนควรใช้วิจารณญาณในการปฏิบัติตนตามแบบอย่างที่เหมาะสม

5.การแสดงออกของการกระตุ้นทางเพศของมนุษย์

แต่ทุกคนมีการตอบสนองต่อการกระตุ้นดังกล่าวให้เหมาะสมกับตน  เช่น  ในบุคคลที่ยังไม่สมรสก็ไม่ควรตอบสนอกการกระตุ้นโดยการมีเพศสัมพันธ์  เนื่องจากก่อให้เกิดผลกระทบตามมา  เช่น  ตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมา  การเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  ซึ่งก็จะทำให้ตนเองและครอบครัวเกิดความเดือดร้อนและเป็นทุกข์  จึงควรหาทางออกที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหา   เช่น  การเบี่ยงเบนความสนใจ   เช่น  การเล่นกีฬา

6.ปฏิบัติตนเกี่ยวกับเรื่องเพศและมีพฤติกรรมทางเพศทางเพศควรสอดคล้องกับจารีตประเพณีของสังคม

ในสังคมทุกสังคมจะมีข้อกำหนดหรือแนวทางปฏิบัติตนในเรื่องเพศตามธรรมนองครองธรรม  เพื่อความดีงามและความสงบเรียบร้อยของสังคม  เช่น  ในสังคมไทยจะมีสำนวนโวหารที่แสดงถึงค่านิยมทางเพศที่ดีในสังคม  เช่น การรักนวลสงวนตัวเข้าตามตรอกออกตามประตู  เป็นต้น

7.ควรตระหนักว่าเรื่องเพศนั้นมีความเกี่ยวข้องกับชีวิต

และมีความหมายกว้างขวางเกี่ยวกับคนเราในหลายมิติ  ทั้งด้านเสรีวิทยา  สังคมวิทยา  จิตวิทยา  และจริยธรรมเรื่องเพศมิได้หมายความว่าเฉพาะเรื่องระบบสืบพันธุ์และการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น

8.การมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมกับวัยจะช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาทางเพศ

การมีพฤติกรรมทางเพศที่เกินวัยจะก่อให้เกิดปัญหาและผลกระทบตามมาหลายประการ เช่น นักเรียนหญิงที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายที่รัดรูปหรือเปิดเผยจนเห็นสัดส่วนอย่างชัดเจน เช่น การใส่เสื้อเอวลอย สวมกระโปรงหรือกางเกงเอวต่ำจนเกินไป การนุ่งสั้นหรือใส่เสื้อเกาะอก เพราะการแต่งตัวเช่นนี้เป็นการยั่วยุอารมณ์และอาจก่อให้เกิดปัญหาทางเพศตามมา

ค่านิยมเรื่องเพศและวัฒนธรรมไทย

ประเทศไทยตั้งแต่ซีกโลกตะวันออก เป็นประเทศที่มีคำนบประเพณีธรรมเนียมและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพัวมาช้านานโดยเฉพาะค่านิยมเรื่องเพศ ซึ่งสามารถจำแนกได้สองมุมมอง ดังนี้

1.ค่านิยมทางเพศที่ถูกต้อง

–         การรักนวลสงวนตัว

–         การเข้าตามตรอก ออกตามประตู

–         การมีรักเดียวใจเดียว

–         การไม่ชิงสุกก่อนห่าม

–         ชายไทยต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว

2.ค่านิยมทางเพศที่ไม่ถูกต้อง

–  การพูดหรือสื่อสารในเรื่องเพศเป็นเรื่องหยาบคาย หรือ น่าอับอาย

–  การไม่เผยแพร่ความจริงในเรื่องเพศ

   –  การยกย่องให้คุณค่าเพศชายเหนือกว่าเพศหญิง

   การใช้ถุงยางอนามัยถูกตีค่าในด้านลบว่าเป็นการไม่ไว้ใจกัน

ค่านิยมเรื่องเพศในสังคมตะวันตก

–         การนัดพบหรือการออกเดท [Dating]

–         การทดลองอยู่ด้วยกัน

–         การแสดงออกความรักใคร่อย่างเปิดเผย

พฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย

ในสังคมไทยปัจจุบันขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมยังคงเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิต และมีบทบาทที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ สำหรับสังคมไทยถือว่าความบริสุทธิ์ และการไม่มีเพศสัมพันธุ์ก่อนแต่งงาน เป็นสิ่งที่ดีงามตามวัฒนธรรมไทย ดังนั้นการวางตัวต่อเพศตรงข้าม ในระหว่างที่คบหาสมาคมกัน เป็นเรื่องสำคัญที่นักเรียนต้องให้ความสนใจ การวางตัวอย่างเหมาะสม เช่น

การแสดงพฤติกรรมของเพศหญิงนั้นจะต้องทำตัวให้เพศชายยกย่อง และให้เกียรติ โดยฝ่ายหญิงจะต้องเข้าใจว่า การที่ผู้หญิงกล้าเกินไป ไม่ถือเนื้อถือตัวและให้ความสนิทสนมกับผู้ชายมากๆ เท่ากับเป็นการเปิดโอกาศให้ผู้ชายสามารถล่วงเกินได้ง่ายขึ้น การวางตัวที่ดีและระมัดระวังตัวไม่ปล่อยให้สนิทสนมกับใครๆ โดยง่ายขึ้น เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งสำหรับกุลสตรี ซึ่งผู้ชายโดยทั่วไปมักจะให้ความยกย่องนับถือ หรือภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเขาได้มีโอกาศแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลักษณะนี้ ในทางเดียวกัน ผู้ชายที่ดีหรือมีความเป็นสุภาพบุรุษนั้น  จะต้องให้เกียรติและยกย่องสุภาพสตรี การวางตัวต่อเพศตรงข้าม ที่เหมาะสมต่อวัฒนธรรมไทยนั้น ควรปฏิบัติดังนี้

–         การปฏิบัติตนของผู้ชาย

ให้เน้นที่ความเป็นสุภาพบุรุษและความมีคุณธรรมประจำใจ คือ ไม่ล่วงเกินทางกาย ไม่พูดทะลึ่ง ไม่พูดจาหลอกลวงฝ่ายหญิง วางตัวให้เหมาะสมและเป็นที่หน้าไว้ใจของฝ่ายหญิง ชายเป็นเพศที่แข็งแรงกว่าควรปกป้องฝ่ายหญิงมากกว่าการไปทำร้ายร่างกาย และ ควรช่วยเหลือฝ่ายหญิงเท่าที่ตัวเองจะทำได้ด้วย

–         การปฏิบัติตนของผู้หญิง

ให้เน้นที่ความเป็นสุภาพสตรีและรักนวลสงวนตัว มีความละอาย คือ ควรสงวนท่าที ไม่อยู่ในที่ลับตา ไม่ควรไปเที่ยงเตร่ตามลำพัง หรือกับเพศตรงข้าม ไม่ยินยอมให้ฝ่ายชายถูกเนื้อต้องตัว ในการวางตัวต่อฝ่ายชาย โดยที่ไปต้องนับถือความเป็นกุลสตรีของตัวเอง